แม้จักจั่นฉี่พุ่งปรี๊ดๆให้เห็นจะจะ
ร่างทรงพญางู เชื่อปรากฏการณ์ฝนใต้ต้นสะตอ หรือน้ำฉี่จักจั่น เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบน แม้จักจั่นฉี่พุ่งปรี๊ดให้เห็น ด้านหมอเตือนชาวบ้านไม่ให้กิน ชี้อาจเป็นอันตราย
จากกรณีต้นสะตอหน้าบ้านของนายอรุณ หนูรอด ใน จ.พัทลุง มีละอองน้ำร่วงลงมาตลอดเวลา จนสร้างความฮือฮาให้แก่ชุมชนเป็นอย่างมาก ชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ที่ทราบข่าว ต่างแห่มาดูปรากฏการณ์ดังกล่าว และพากันแห่รองน้ำไปให้ผู้ป่วยดื่มกิน ล้างหน้า และล้างตัว เนื่องจากเชื่อว่ารักษาโรคได้ และยังเชื่อว่าให้โชคให้ลาภ
โดยทางการได้ออกมาประกาศแล้วว่าเป็นแค่ฉี่จักจั่น ไม่ควรนำมาดื่ม เพราะไม่ใช่น้ำสะอาด แต่ชาวบ้านก็ไม่เชื่อ (อ่านข่าว : ฉี่จักจั่นแล้วไง
ชาวบ้านยังคงดื่มน้ำใต้ต้นสะตอ เชื่อศักดิ์สิทธิ์-ขอหวยได้)
ชาวบ้านยังคงดื่มน้ำใต้ต้นสะตอ เชื่อศักดิ์สิทธิ์-ขอหวยได้)
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นนี้ ทีมผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายอรุณ พบชาวบ้านกว่า 30 คน กำลังยืนดูปรากฏการณ์ฝนใต้ต้นสะตอ หรือฝนฉี่จักจั่น เมื่อสังเกตดูตามกิ่งไม้ของต้นสะตอทั้ง 2 ต้น ก็พบว่ามีตัวจักจั่นเป็นจำนวนมาก ทั้งเกาะเป็นกลุ่มและเดินไต่ไปมา ละอองน้ำส่วนใหญ่จะออกมาจากจุดที่จักจั่นอยู่ ชาวบ้านได้ลองพิสูจน์โดยปีนขึ้นไปหลังรถบรรทุก และนำไม้ไปเคาะตามกิ่งไม้ พบว่ามีตัวจักจั่นบินออกมา และมีละอองน้ำโปรยลงมาตลอดเวลา ลักษณะเหมือนหยดน้ำทั่วไป ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น
กระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. ร่างทรงหญิงคนหนึ่งชื่อ นางชบา แต่งกายนุ่งขาวห่มขาว ได้เข้ามาปูเสื่อทำพิธีใต้ต้นสะตอ จุดธูปบูชาเจ้าที่ และสวดอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น นางชบามีอาการคล้ายคนทรง ทำหน้าทำตาพอง ลงไปเลื้อยกับพื้น และลุกขึ้นมานั่งชันขา ร่างที่เข้าทรงแนะนำตัวว่าเป็น "พญางูเจ้าที่"
นางชบา ขณะร่างทรงพญางูเข้า เลื้อยลงไปกับพื้น : ภาพจาก อมรินทร์ ทีวี
พญางูเล่าว่าตัวเองอาศัยอยู่นี่มา 5 ปีแล้ว ถามชาวบ้านว่าเรียกตนเองมาทำไม และร้องหิว อยากกินไข่ดิบ ชาวบ้านก็รีบนำไข่ไก่มาให้ พญางูเจ้าที่ในร่างทรงทำท่าจะตอก แต่ก็ชะงักไป บอกว่า "กูจะกินยังไง" ชาวบ้านจึงไปหยิบจานมาตอกไข่ให้ พญางูกินก็กินไปพร้อมกันทีเดียว 3 ฟอง โดยระหว่างทำพิธีดังกล่าว เสียงจักจั่นก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ และฉี่ปรี๊ดออกมาเป็นสาย
ต่อมาในช่วงค่ำ นางวิไลลักษณ์ พงศาปาน ร่างทรงอีกคน ก็เดินทางมาดูต้นสะตอด้วยเช่นกัน กล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากปู่พญานาคราช มีความเชื่อตามโบราณว่าคนเฒ่าคนแก่ปกปักรักษาสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ซึ่งปรากฏการณ์ฝนตกใต้ต้นสะตอจะคงอยู่ตลอดไป สามารถนำน้ำศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไปดื่มรักษาโรคได้
นางวิไลลักษณ์ พงศาปาน ร่างทรง
นางวิไลลักษณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ ตนก็เข้าใจ เพราะเป็นเรื่องของบุญวาสนา หลังจากนั้นนางวิไลลักษณ์ได้เดินเข้าไปในบ้านของนายอรุณ แล้วอยู่ดี ๆ ก็เกิดการประทับทรง ร่างทรงเข้า เสียงพูดเปลี่ยนไปเหมือนเสียงเด็ก และพูดได้แค่ภาษาใต้เท่านั้น ร่างทรงกล่าวแนะนำตัวว่าเป็นพ่อปู่ที่ปกปักรักษาพื้นที่นี้อยู่ และน้ำที่ตกลงมาเป็นน้ำจากเบื้องบน
นางวิไลลักษณ์ ขณะร่างทรงประทับ ทางด้าน นางนงค์ พอทองคำ
หนึ่งในชาวบ้านที่มาดูปรากฏการณ์
ฝนฉี่จักจั่น ได้เดินทางมาจากอำเภอเขาชัยสน หลังได้ยินกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของฝนดังกล่าว นางนงค์เล่าว่าตัวเองมีอาการปวดหลังเรื้อรังมานานถึง 2 ปี รักษาที่ไหนก็ไม่หาย
หนึ่งในชาวบ้านที่มาดูปรากฏการณ์
ฝนฉี่จักจั่น ได้เดินทางมาจากอำเภอเขาชัยสน หลังได้ยินกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของฝนดังกล่าว นางนงค์เล่าว่าตัวเองมีอาการปวดหลังเรื้อรังมานานถึง 2 ปี รักษาที่ไหนก็ไม่หาย
นางนงค์ พอทองคำ ชาวบ้านที่เชื่อในน้ำศักดิ์สิทธิ์
แต่เมื่อได้กินน้ำจากต้นสะตอ อาการปวดหลังกลับทุเลาลงอย่างน่าทึ่ง ตนจึงตัดสินใจเดินทางมาอีกครั้ง หวังรองน้ำกลับบ้านไปสัก 1 ขวด เพื่อนำไปใช้ดื่มรักษาโรคตามความเชื่อ และยืนยันว่าน้ำดังกล่าวไม่มีผลเสียใด ๆ ต่อร่างกาย
ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุข จ.พัทลุง ได้ปักป้ายเตือนเอาไว้ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อไม่ให้ชาวบ้านนำน้ำไปดื่ม ระบุว่า "ผลการตรวจน้ำที่ตกลงมาจากต้นไม้ พบว่าเป็นน้ำที่ไม่สะอาด ห้ามน้ำไปใช้ดื่มกิน ด้วยความปรารถนาดีจาก รพ.สต.บ้านนาโหนด สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดพัทลุง"
ด้าน นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือหมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ได้เตือนชาวบ้านว่า "อย่าให้ตัวเองเป็นหนูทดลอง" ควรรอผลพิสูจน์น้ำดังกล่าวให้แน่ใจก่อค่อยกิน เพราะนอกจากฉี่จักจั่นจะมีกรดยูริกแล้ว ยังอาจมีสารอื่นที่เป็นอันตรายปะปนอยู่ด้วย ส่วนชาวบ้านบางรายที่กินน้ำแล้วรู้สึกอาการเจ็บป่วยดีขึ้น ตอนมองว่าเป็นเรื่องของจิตใจ เพราะเมื่อกินด้วยความเชื่อ ก็จะทำให้มีกำลังใจ ทางที่ดีควรให้พิสูจน์สารในฉี่จักจั่นก่อนจะดีที่สุด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายระยะยาวได้