เผยความลับอุโมงค์พิศวง – เว็บไซต์ เดลีเมล์ รายงานข่าว นักโบราณคดีค้นพบอุโมงค์พิศวงอยู่ใต้ พีรามิด ออฟ เดอะมูน ที่ประเทศเม็กซิโก สร้างความความเชื่อว่าเป็นประตูสู่ยมโลกและพิธีกรรมความเชื่อในแบบเมโสอเมริกาโบราณ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจะมีโครงกระดูกพร้อมกะโหลกที่รูปร่างผิดส่วนและสิ่งของแปลกประหลาดอยู่ใต้ดินนั้น
การค้นพบทางโบราณคดีครั้งนี้อยู่ในพื้นที่ประวิติศาสตร์ เทโอทิวาคาน (Teotihuacan) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเม็กซิโกซิตี้ เมืองหลวง
พีรามิด ออฟ เดอะมูน ถือเป็นพีรามิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองลงมาจากพีรามิด ออฟ เดอะ ซัน สถาปัตยกรรมโบราณที่ประเมินว่าสร้างขึ้นในช่วงราวค.ศ.200 แต่เมืองเทโอทิวาคานน่าจะสร้างขึ้นช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวทีโอเทค ก่อนที่ชนแอซเทคจะมาถึง
การค้นพบห้องต่างๆและอุโมงค์ลึกลับใน พีรามิด ออฟ เดอะมูน เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2017 หรือพ.ศ.2560 หลังจากที่นักโบราณคดีได้นำเทคโนโลยีจากความรู้เรื่องความต้านทานไฟฟ้ามาใช้ นำไปสู่การค้นพบอุโมงค์สุดลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้พีรามิด
ดร.เวโรนกา ออร์เตก้า ผู้อำนวยการโครงการด้านการอนุรักษ์พิเศษของพลาซ่า เดอ ลา ลูนา กล่าวว่า การศึกษาครั้งนี้พวกเรามุ่งเน้นไปที่ความเชื่อเกี่ยวกับพิธีกรรมโบราณที่เกี่ยวข้องกับอุโมงค์ลึกลับที่ตั้งอยู่กลางจัตุรัสอันซับซ้อนนี้ โดยมีความเชื่อว่ามันคือประตูสู่ขุมนรก
การค้นพบครั้งก่อนนักโบราณคดีได้พบโครงกระดูกของมนุษย์จำนวนมากที่มีรูปร่างบิดเบี้ยว มีความผิดปกติของกะโหลกในพื้นที่อารยธรรมมายาโบราณและพบวัตถุที่ทำมาจากหินสีเขียว ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ มานุษยรูปนิยมที่เป็นงานโมเสก จึงอาจคาดเดาได้ว่าสิ่งที่จะพบอยู่ใต้อุโมงค์ข้างล่างนี้คงมีลักษณะคล้ายๆ กัน
การใช้เทคโนโลยีใหม่ในการสำรวจ
อุโมงค์ที่เพิ่งพบแห่งใหม่นี้อยู่ลึกลงไปจากผิวดินของพีรามิด 8 เมตรและมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 เมตร และได้รับการยืนยันล่าสุดแล้วว่าห้องนี้มีอยู่จริงจากผลการทำซีทีสแกนเมื่อเดือนมิ.ย.ปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหลุมศพที่อาจถูกอุทิศสำหรับพิธีกรรม
ดร.ออร์เตก้า กล่าวเพิ่มเติมว่า อุโมงค์นี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพลาซ่า เดอ ลา ลูนา แต่ดูเหมือนว่าจะมีทางเข้าจากฝั่งตะวันออกอีกทางด้วยเช่นกัน การตรวจสอบโครงกระดูกในหลุมศพเหล่านี้ จะช่วยให้ทราบถึงความเกี่ยวข้องของเมืองโบราณแห่งนี้กับภูมิภาคอื่นๆ ในอารยธรรมที่มีรากเหง้ามาจากเมโสอเมริกาหลายประเทศที่มีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกันได้ สิ่งลึกลับในอุโมงค์จะเป็นกุญแจไขคำตอบให้เรา
ผู้เชี่ยวชาญคนก่อนหน้า กล่าวว่า ตามความเชื่อโบราณอุโมงค์แห่งนี้อาจเคยเป็นทางไหลของน้ำศักดิ์สิทธิ์และเป็นประตูสู่นรก ซึ่งการค้นพบได้ยืนยันว่าชาวเทโอทิวาคาน (Teotihuacan) อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้และใช้ชีวิตโดยเลียนแบบโลกใต้พิภพ
การศึกษาด้วยการวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าเป็นรูปแบบของการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะช่วยในการสร้างภาพที่อยู่ใต้ผิวดิน เป็นการใช้ศักย์ไฟฟ้าเพื่อระบุพื้นผิวของวัตถุ