ค้นหา
Custom Search
ของกัวเตมาลา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในผืนป่า คณะนักวิจัยในโครงการสำรวจและวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์ (LIDAR)
ค้นพบร่องรอยของเมืองโบราณขนาดใหญ่ในป่าทึบทางตอนเหนือของประเทศกัวเตมาลา ซึ่งเมืองดังกล่าวเป็นหลักฐานชี้ว่า อารยธรรมมายาในยุคที่รุ่งเรืองสูงสุดเมื่อราว 1,500 ปีก่อน มีอาณาเขตกว้างขวางและมีประชากรจำนวนมากกว่าที่เคยคาดกันไว้ 3-4 เท่า
คณะนักวิจัยใช้การยิงแสงเลเซอร์จากเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ลงไปยังพื้นที่สำรวจ 2,100 ตารางกิโลเมตร เพื่อตรวจสอบบริเวณที่เป็นป่าทึบ โดยข้อมูลดิจิทัลที่ได้จากการสะท้อนกลับของแสงเลเซอร์ ได้เผยให้เห็นแท่นหินที่เป็นรากฐานของอาคารบ้านเรือนกว่า 60,000 หลัง
รวมทั้งโครงสร้างของพีระมิดขนาด 7 ชั้น ป้อมปราการ กำแพงเมือง คูน้ำ และทางยกระดับขนาดใหญ่เพื่อการสัญจรไปมาอีกด้วย
รวมทั้งโครงสร้างของพีระมิดขนาด 7 ชั้น ป้อมปราการ กำแพงเมือง คูน้ำ และทางยกระดับขนาดใหญ่เพื่อการสัญจรไปมาอีกด้วย
ศาสตราจารย์สตีเฟน ฮิวสตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีและมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยบราวน์ของสหรัฐฯบอกว่า การค้นพบครั้งนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการศึกษาอารยธรรมมายา ในรอบ 150 ปีที่ผ่านมา
มีการค้นพบแท่นหินที่เป็นฐานของบ้านกว่า 60,000 หลัง โดยคาดว่ามีการสร้างบ้านด้วยโครงเสาไม้และมุงด้วยฟางหรือใบพืชบนฐานหินนี้
คณะนักวิจัยในโครงการ LIDAR ได้นำข้อมูลจากแสงเลเซอร์มาสร้างเป็นแผนที่ 3 มิติ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ที่ผ่านมานักโบราณคดีประเมินความยิ่งใหญ่และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอารยธรรมมายาต่ำเกินไป
ทั้งที่จริงแล้วอาณาจักรของชาวมายามีอาณาเขตกว้างขวางกว่าที่คาด 3-4 เท่า และอาจมีประชากรสูงสุดถึง 15 ล้านคน ซึ่งเทียบได้กับความเจริญของอารยธรรมกรีกและจีนโบราณ
ข้อมูลจากการสำรวจด้วยแสงเลเซอร์ยังชี้ว่า ชาวมายาทุ่มเททรัพยากรเพื่อการป้องกันเมืองมากกว่าที่คิด โดยมีการสร้างกำแพงใหญ่ที่มีคูน้ำล้อมรอบรวมทั้งป้อมปราการจำนวนมาก
ข้อมูลจากการสำรวจด้วยเลเซอร์ สามารถนำมาสร้างเป็นแผนที่ 3 มิติของเมืองโบราณที่ซ่อนอยู่ได้ สิ่งค้นพบที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งคือทางยกระดับขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อเป็นเครือข่ายกับเมืองโบราณอีกหลายแห่งในแถบนั้น
ซึ่งช่วยให้ผู้คนสัญจรไปมาได้โดยสะดวกแม้ในฤดูฝน ทางยกระดับดังกล่าวมีความกว้างพอที่จะใช้ลำเลียงสินค้าจำนวนมาก ในช่วงที่มีการสัญจรไปมาคับคั่งได้ ทั้งนี้ เทคนิคใหม่ในการสำรวจและวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์ ช่วยให้นักโบราณคดีทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น แทนที่จะต้องใช้เวลาเดินเท้าในป่าและขุดค้นหาร่องรอยของโบราณสถานเป็นเวลานานหลายปี โดยมีการใช้เทคนิคนี้สำรวจซากเมืองโบราณที่ค้นพบใหม่ใกล้กับนครวัดของกัมพูชามาแล้ว
ทั้งที่จริงแล้วอาณาจักรของชาวมายามีอาณาเขตกว้างขวางกว่าที่คาด 3-4 เท่า และอาจมีประชากรสูงสุดถึง 15 ล้านคน ซึ่งเทียบได้กับความเจริญของอารยธรรมกรีกและจีนโบราณ
ข้อมูลจากการสำรวจด้วยแสงเลเซอร์ยังชี้ว่า ชาวมายาทุ่มเททรัพยากรเพื่อการป้องกันเมืองมากกว่าที่คิด โดยมีการสร้างกำแพงใหญ่ที่มีคูน้ำล้อมรอบรวมทั้งป้อมปราการจำนวนมาก
ข้อมูลจากการสำรวจด้วยเลเซอร์ สามารถนำมาสร้างเป็นแผนที่ 3 มิติของเมืองโบราณที่ซ่อนอยู่ได้ สิ่งค้นพบที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งคือทางยกระดับขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อเป็นเครือข่ายกับเมืองโบราณอีกหลายแห่งในแถบนั้น
ซึ่งช่วยให้ผู้คนสัญจรไปมาได้โดยสะดวกแม้ในฤดูฝน ทางยกระดับดังกล่าวมีความกว้างพอที่จะใช้ลำเลียงสินค้าจำนวนมาก ในช่วงที่มีการสัญจรไปมาคับคั่งได้ ทั้งนี้ เทคนิคใหม่ในการสำรวจและวัดระยะด้วยแสงเลเซอร์ ช่วยให้นักโบราณคดีทำงานได้อย่างรวดเร็วขึ้น แทนที่จะต้องใช้เวลาเดินเท้าในป่าและขุดค้นหาร่องรอยของโบราณสถานเป็นเวลานานหลายปี โดยมีการใช้เทคนิคนี้สำรวจซากเมืองโบราณที่ค้นพบใหม่ใกล้กับนครวัดของกัมพูชามาแล้ว
การสำรวจด้วยเลเซอร์เผยให้เห็นโครงสร้างพีระมิด 7 ชั้นที่ซ่อนอยู่
อารยธรรมมายามีความเก่าแก่ราว 3,000 ปี ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ในภูมิภาคอเมริกากลาง ซึ่งรวมถึงทางตอนใต้ของเม็กซิโก พื้นที่ของประเทศกัวเตมาลาและเบลิซทั้งหมด รวมทั้งบางส่วนทางตะวันตกของประเทศฮอนดูรัสและเอลซัลวาดอร์ด้วย
โดยชาวมายามีความก้าวหน้าทางวิทยาการอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิศวกรรม คณิตศาสตร์ สถาปัตยกรรม และดาราศาสตร์
โดยชาวมายามีความก้าวหน้าทางวิทยาการอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิศวกรรม คณิตศาสตร์ สถาปัตยกรรม และดาราศาสตร์