Custom Search

ประวัติศาสตร์กำแพงเมืองจีนและความลึกลับในกำแพง


กำแพงหนา 7 เมตรแห่งนี้ชั้นนอกก่อด้วยอิฐและหินแต่ส่วนชั้นในนั้นอัดแน่นไปด้วยดินเศษอิฐและหินรวมถึงโครงกระดูกของบรรดาแรงงานนักโทษสงครามชายฉกรรจ์ที่บาดเจ็บล้มตายลงไปในช่วงการก่อสร้างกระดูกผู้เสียชีวิตถูกฝังอยู่ใต้กำแพงเหล่านี้นั่นเอง

งานก่อสร้างกำแพงหมื่นลี้อันยาวนานสิ้นสุดลงเมื่อ 1644 ในช่วงการปกครองจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์หมิง

หลังจากนั้นก็ไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกเลยมีเพียงแต่การทำนุบำรุงซ่อมแซมเท่านั้นใหญ่เท่านั้นที่ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่ปีละกว่า 5 ล้านคน

ในช่วงต่างๆของกำแพงที่ทอดยาวบนแผ่นดินจีนราวกับว่าเป็นมังกรยักษ์ เลื้อยไปตามหุบเขาน้อยใหญ่สุดลูกหูลูกตา

กำแพงเมืองจีนยังคงเรียกว่า "กำแพงหมื่นลี้" (จีนตัวย่อ: 万里长城; จีนตัวเต็ม: 萬里長城; พินอิน: Wànlĭ Chángchéng "ว่านหลี่ฉางเฉิง") สำนักงานมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีน ประกาศเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ว่านักโบราณคดีได้ตรวจวัดความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือ "กำแพงเมืองจีน" อย่างเป็นทางการนานร่วม 5 ปี

ตั้งแต่ 2008-2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196.18 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ[4] และนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคกลาง ด้วย

มีความเชื่อกันว่า หากมองเมืองจีนจากอวกาศจะสามารถเห็นกำแพงเมืองจีนได้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่สามารถมองเห็นจากอวกาศได้

กำแพงเมืองจีนสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนรัชสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ ปฐมจักรพรรดิพระองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าเร่ร่อนทางตอนเหนือ

โดยมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยฮ่องเต้องค์ต่อมาอีกหลายพระองค์ จนสำเร็จในที่สุด กำแพงเมืองจีนถือเป็นงานก่อสร้างที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเท่าที่เคยมีมาเลย

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

รายการบล็อกของฉัน